รายวิชา ภาษาไทย
คำอวยพรปีใหม่
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบัลดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดปี พ.ศ. 2555
เสียงวรรณยุกต์ หรือเสียงดนตรี เกิดจากเสียงเปล่งออกมาพร้อมเสียงแปรจะมีเสียงสูง ต่ำ ตามการสั่นสะเทือนของสายเสียงอวัยวะที่ทำให้เกิดเสียง ได้แก่ ปอด หลอดลม กล่องเสียง ลิ้นไก่ ลิ้น เพดานปุ่มเหงือก ฟัน และริมฝีปาก
เสียงในภาษาไทย
เสียงในความหมายกว้าง ๆ หมายถึง เสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงมนุษย์เสียงสัตว์ หรือเสียงอื่นใดก็ตาม แต่ในการศึกษา เสียง หมายถึง เสียงที่มนุษย์เปล่งออกมาเพื่อสื่อความหมายระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
เสียงในภาษาไทย
เสียงในภาษาไทยแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด ด้วยกัน คือ เสียงสระ เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์
เสียงสระ หรือเสียงแท้ เกิดจากลมที่ออกจากปอดโดยไม่ถูกอวัยวะใดกีดขวาง
เสียงพยัญชนะ หรือเสียงแปร เกิดจากการลมที่ออกจากปอดแล้วถูกปิดกั้นทางเดิน ของลมให้แคบลง ทำให้ลมผ่านไม่สะดวกจนต้องเสียดแทรกออกมา
เสียงสระ
ฐานที่เกิดเสียงสระ
เสียงสระ เกิดขึ้นโดยอาศัยคอเป็นที่ตั้ง และริมฝีปากหรือลิ้นกระทบอวัยวะในปากเป็นเครื่องช่วย ลิ้นที่ทำให้เกิดเสียงมีอยู่ ๓ ส่วน คือ ลิ้นส่วนหน้า ส่วนกลาง ส่วนหลังลิ้นแต่ละส่วนก็ยังสามารถกระดกขึ้นลงได้ ๓ ระดับ คือ สูง กลาง ต่ำ ถ้าลิ้นกระดกระดับต่าง ๆ เสียงสระที่เกิดขึ้นก็จะต่างกันไปด้วย จากตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นส่วนของลิ้นที่ทำให้เกิดสระ
ฐานที่เกิดเสียงสระ
เสียงสระ เกิดขึ้นโดยอาศัยคอเป็นที่ตั้ง และริมฝีปากหรือลิ้นกระทบอวัยวะในปากเป็นเครื่องช่วย ลิ้นที่ทำให้เกิดเสียงมีอยู่ ๓ ส่วน คือ ลิ้นส่วนหน้า ส่วนกลาง ส่วนหลังลิ้นแต่ละส่วนก็ยังสามารถกระดกขึ้นลงได้ ๓ ระดับ คือ สูง กลาง ต่ำ ถ้าลิ้นกระดกระดับต่าง ๆ เสียงสระที่เกิดขึ้นก็จะต่างกันไปด้วย จากตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นส่วนของลิ้นที่ทำให้เกิดสระ
ระดับลิ้น
|
ลิ้นส่วนหน้า
|
ลิ้นส่วนกลาง
|
ลิ้นส่วนหลัง
| ||||||||||||
|
|
|
|
รูปสระ
สระไทย ๒๑ รูป ดังนี้
สระไทย ๒๑ รูป ดังนี้
๑. ะ วิสรรชนีย์
|
๘. " ฟันหนู
|
๑๕. อ ตัวออ
|
๒. ั ไม้ผัดหรือไม้หันอากาศ
|
๙. ุ ตีนเหยียด
|
๑๖. ย ตัวยอ
|
๓. ็ ไม้ไต่คู้
|
๑๐. ู ตีนคู้
|
๑๗. ว ตัววอ
|
๔. ๆ ลากข้าง
|
๑๑ เ ไม้หน้า
|
๑๘. ฤ ตัวร
|
๕. ิ พินท์อิ
|
๑๒. ใ ไม้ม้วน
|
๑๙. ฤา ตัวรือ
|
๖. ่ ฝนทอง
|
๑๓. ไ ไม้มลาย
|
๒๐. ฦ ตัวลึ
|
๗. ํ นฤคหิต (หยดน้ำค้าง)
|
๑๔. โ ไม้โอ
|
๒๑. ฦา ตัว ลือ
|
เสียงสระ
เสียงสระในภาษาไทยมี ๒๔ เสียงจำแนกเป็นเสียงเดี่ยวหรือสระแท้ ๑๘ เสียงสระเลื่อน ๖ เสียง
๑. สระเดี่ยว หรือสระแท้ มี ๑๘ เสียง ซึ่งมีเสียงสั้นเสียงยาว ๙ คู่ ดังนี้
รัสสระ (สระเสียงสั้น) ทีฆสระ (สระเสียงยาว)
อะ อา
อิ อี
อี อื
อุ อู
เอะ เอ
แอะ แอ
โอะ โอ
เอาะ ออ
เออะ เออ
๒. สระเลื่อน หรือสระประสม ในภาษาไทยมี ๖ เสียง คือสระที่มีการเลื่อนระดับของลิ้นจากเสียงหนึ่งไปยังเสียงหนึ่ง
ได้แก่
รัสสระ (สระเสียงสั้น) ทีฆสระ (สระเสียงยาว)
เอียะ (อิ -> อะ) เอีย (อี -> อา)
เอือะ (อื -> อะ) เอือ (อื -> อา)
อัวะ (อุ -> อะ) อัว (อู -> อา)
คำที่มีสระเลื่อนเสียงสั้นมีเพียงไม่กี่คำที่ยืมมาจากภาษาอื่น เช่น เกี๊ยะ เปรี๊ยะ เบื๊อก เอื๊อก ผัวะ ยัวะ ด้วยเหตุนี้นักภาษาศาสตร์บางคนจึงถือว่าภาษาไทยมีสระเลื่อนเพียง ๓ เสียง คือ /เอีย/ /เอือ/ /อัว/
เสียงสระในภาษาไทยมี ๒๔ เสียงจำแนกเป็นเสียงเดี่ยวหรือสระแท้ ๑๘ เสียงสระเลื่อน ๖ เสียง
๑. สระเดี่ยว หรือสระแท้ มี ๑๘ เสียง ซึ่งมีเสียงสั้นเสียงยาว ๙ คู่ ดังนี้
รัสสระ (สระเสียงสั้น) ทีฆสระ (สระเสียงยาว)
อะ อา
อิ อี
อี อื
อุ อู
เอะ เอ
แอะ แอ
โอะ โอ
เอาะ ออ
เออะ เออ
๒. สระเลื่อน หรือสระประสม ในภาษาไทยมี ๖ เสียง คือสระที่มีการเลื่อนระดับของลิ้นจากเสียงหนึ่งไปยังเสียงหนึ่ง
ได้แก่
รัสสระ (สระเสียงสั้น) ทีฆสระ (สระเสียงยาว)
เอียะ (อิ -> อะ) เอีย (อี -> อา)
เอือะ (อื -> อะ) เอือ (อื -> อา)
อัวะ (อุ -> อะ) อัว (อู -> อา)
คำที่มีสระเลื่อนเสียงสั้นมีเพียงไม่กี่คำที่ยืมมาจากภาษาอื่น เช่น เกี๊ยะ เปรี๊ยะ เบื๊อก เอื๊อก ผัวะ ยัวะ ด้วยเหตุนี้นักภาษาศาสตร์บางคนจึงถือว่าภาษาไทยมีสระเลื่อนเพียง ๓ เสียง คือ /เอีย/ /เอือ/ /อัว/
ข้อพิจารณาเกี่ยวกับเสียงสระ
๑. สระบางเสียงใช้อักษรแทนได้หลายรูป เช่น คำว่า "ไน" อาจเขียนว่า"นัย" หรือ "ใน" คำว่า "กำ" อาจเขียนว่า "กรรม"
๒. ในบางคำรูปสระบางรูปไม่ออกเสียง เช่นคำว่า ญาติ ประวัติ ในคำว่าเหตุธาตุ
๓. ในบางคำมีเสียงสระ /อะ/ แต่ไม่ปรากฏรูป เช่น สบาย ตลาด หวายอร่อย
๔. ไม้ไต่คู้ ใช้แสดงเสียงสั้นแต่คำบางคำเสียงสั้นก็ไม่นิยมใช้ไม้ไต่คู้ เช่น เพชร เบญจ
๕. ภาษาไทยมีรูปสระวางไว้หลายตำแหน่ง
วางไว้ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น สระ เ- แ- ใ-
วางไว้ข้างหลังพยัญชนะ เช่น สระ -า
วางไว้ข้างบนพยัญชนะ เช่น สระ -ิ -ี
วางไว้ข้างล่างพยัญชนะ เช่น สระ -ุ -ู
วางไว้ข้างหน้าและข้างหลัง เช่น สระ เ-า
วางไว้ข้างหน้าและข้างบน เช่น สระ เ-ีย
๖. การใช้สระ มี ๓ ลักษณะ คือ
๑. สระคงรูป เช่น ใน เสา มี
๒. สระลดรูป เช่น ตก
๓. สระเปลี่ยนรูป เช่น มัน เห็น
๒. ในบางคำรูปสระบางรูปไม่ออกเสียง เช่นคำว่า ญาติ ประวัติ ในคำว่าเหตุธาตุ
๓. ในบางคำมีเสียงสระ /อะ/ แต่ไม่ปรากฏรูป เช่น สบาย ตลาด หวายอร่อย
๔. ไม้ไต่คู้ ใช้แสดงเสียงสั้นแต่คำบางคำเสียงสั้นก็ไม่นิยมใช้ไม้ไต่คู้ เช่น เพชร เบญจ
๕. ภาษาไทยมีรูปสระวางไว้หลายตำแหน่ง
วางไว้ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น สระ เ- แ- ใ-
วางไว้ข้างหลังพยัญชนะ เช่น สระ -า
วางไว้ข้างบนพยัญชนะ เช่น สระ -ิ -ี
วางไว้ข้างล่างพยัญชนะ เช่น สระ -ุ -ู
วางไว้ข้างหน้าและข้างหลัง เช่น สระ เ-า
วางไว้ข้างหน้าและข้างบน เช่น สระ เ-ีย
๖. การใช้สระ มี ๓ ลักษณะ คือ
๑. สระคงรูป เช่น ใน เสา มี
๒. สระลดรูป เช่น ตก
๓. สระเปลี่ยนรูป เช่น มัน เห็น
เสียงพยัญชนะ
พยัญชนะ แปลว่า การกระทำเสียงให้ปรากฏชัด หรือเครื่องหมายตัวอักษรที่ใช้แทนภาษาพูด พยัญชนะจะออกเสียงตามลำพังไม่ได้ต้องอาศัยสระ
เสียงพยัญชนะในภาษาไทย
เสียงพยัญชนะในภาษาไทย มี ๒๑ เสียง (๔๔ รูป)
|
|
|
(บางตำรานับ ๒๐ เสียง ไม่นับเสียง /อ/)
สรุปพยัญชนะที่ไม่ออกเสียง
๑. พยัญชนะที่มีเครื่องหมายทัณฑฆาตกำกับ เช่น วิทย์ ศาสน์
๒. พยัญชนะซึ่งตามหลังตัวสะกดในบางคำ เช่น พุทธ ภัทร
๓. ร หรือ ห ซึ่งนำพยัญชนะตัวสะกดในบางคำ เช่น สามารถ พรหม พราหมณ์
๔. ร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอักษรควบไม่แท้ เช่น จริง เสร็จ โครม สร้าง โทรม
เสียงวรรณยุกต์
เสียงวรรณยุกต์ คือ เสียงที่เปล่งออกมามีระดับสูงต่ำต่างกัน ทำให้ความหมายต่างกัน ด้วยซึ่งเป็นเสียงที่เกิดกับเสียงสระและเสียงพยัญชนะวรรค วรรณยุกต์ไทย มี ๕ เสียง ๔ รูป คือ
เสียง เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี เสียงจัตวา
รูป - ่ ้ ๊ ๋
ในบางคำรูปกับเสียงวรรณยุกต์อาจไม่ตรงกัน พยัญชนะต้น สระ และตัวสะกดมีความสำคัญต่อการในวรรณยุกต์ไม่น้อยกว่ารูปวรรณยุกต์ ในการเขียนจึงต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ด้วย จึงจะใช้วรรณยุกต์ได้ถูกต้อง เช่น โน้ต เชิ้ต เสียงตรีแต่ใช้รูปวรรณยุกต์โทเป็นต้น
ตัวอย่างการผันอักษร
สามัญ
|
เอก
|
โท
|
ตรี
|
จัตวา
| |
อักษรกลางคำเป็น
|
กา
|
ก่า
|
ก้า
|
ก๊า
|
ก๋า
|
อักษรกลางคำตาย
|
-
|
กะ
|
ก้ะ
|
ก๊ะ
|
ก๋ะ
|
อักษรสูงคำเป็น
|
-
|
ข่า
|
ข้า
|
-
|
ขา
|
อักษรสูงคำตาย
|
-
|
ขะ
|
ข้ะ
|
-
|
-
|
อักษรต่ำคำเป็น
|
คา
|
-
|
ค่า
|
ค้า
|
-
|
อักษรต่ำคำตายสระเสียงสั้น
|
-
|
-
|
ค่ะ
|
คะ
|
ค๋ะ
|
อักษรต่ำคำตายสระเสียงยาว
|
-
|
-
|
โนต
|
โน้ต
|
โน๋ต
|
จะเห็นได้ว่าอักษรสูงกับอักษรกลางมีเสียงตรงกับรูปเสมอ แต่อักษรต่ำจะมีเสียงสูงกว่านั้นอีก เว้นแต่เสียงจัตวาเพราะไม่มีเสียงใดสูงกว่านั้นอีก วิธีผันอักษรสูงและอักษรต่ำให้ครบ ๕ เสียง ทำได้โดยนำอักษรต่ำคู่ที่มีเสียงคู่กับอักษรมาผันคู่กัน เช่น
เสียงสามัญ
|
เสียงเอก
|
เสียงโท
|
เสียงตรี
|
เสียงจัตวา
| |
อักษรสูง
|
-
|
ข่า
|
ข้า
|
-
|
ขา
|
อักษรต่ำ (คู่)
|
คา
|
-
|
ค่า
|
ค้า
|
-
|
ส่วนอักษรต่ำเดี่ยวอาจผันให้ครบทั้ง ๕ เสียงใช้อักษรกลางหรือสูงเป็นตัวนำ เช่น
เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี เสียงจัตวา
อักษรสูง อยู่ อยู่ อยู้ ยู้ ยู๋
อักษรต่ำ (คู่) นี หนี่ หนี้ นี้ หนี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น